================================================== -->
ยืนยันว่าการรวมสำนวนและส่งสำนวนคืนให้กองปราบปราม ไม่กระทบต่อคดี อีกทั้งยังมีความเห็นสอดคล้องกับอัยการด้วยว่าการรวมสำนวนกันนั้น เมื่อมีการพิพากษาว่าผู้ต้องหาผิดจริง ผู้ต้องหาจะได้รับโทษหนักขึ้นกว่าสำนวนที่ส่งไปก่อนหน้านี้ พตอสุวัฒน์ แสงนุ่ม ระบุ
ข้าราชการระดับท๊อปศธเอี่ยวทุจริต อความเรียม-MOENet 19 เมษายน พศ 2561 เวลา 07:15 น หมอธี เผยระดับซี8-11ในศธเกี่ยวข้องกรณีทุจริตทั้งควาเรียม และMOENet ปลัด ศธ จะส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องซีทั้งหมดให้ในสัปดาห์หน้า ส่วน MOENet พบมีมูลมีข้าราชการซี 7 เข้ามาติดสินบนและข่มขู่ ให้ รองปลัด ศธ ต่อสัญญาพร้อมส่งเรื่องนี้ให้ ปปช ตรวจสอบด้วย เผยมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ เฉพาะสพฐเสียค่าอินเตอร์เน็ตปีละ 2,000 ล้าน ส่วนประเด็นข้อถกเถียงที่อ้างว่าโครงการเป็นมติของ ครมนั้น จะส่งให้ สตง ตรวจสอบ
โพสต์บล็อกทั้งหมด(698)
การจำแนกประเภท: สำนักข่าวซินหัว
55slotxo,ถ้าจะมีคือ ไม่อนุญาตให้จด ข้าราชการระดับท๊อปศธเอี่ยวทุจริต อความเรียม-MOENet 19 เมษายน พศ 2561 เวลา 07:15 น หมอธี เผยระดับซี8-11ในศธเกี่ยวข้องกรณีทุจริตทั้งควาเรียม และMOENet ปลัด ศธ จะส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องซีทั้งหมดให้ในสัปดาห์หน้า ส่วน MOENet พบมีมูลมีข้าราชการซี 7 เข้ามาติดสินบนและข่มขู่ ให้ รองปลัด ศธ ต่อสัญญาพร้อมส่งเรื่องนี้ให้ ปปช ตรวจสอบด้วย เผยมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ เฉพาะสพฐเสียค่าอินเตอร์เน็ตปีละ 2,000 ล้าน ส่วนประเด็นข้อถกเถียงที่อ้างว่าโครงการเป็นมติของ ครมนั้น จะส่งให้ สตง ตรวจสอบ ปิดฉาก 7 วันอันตรายสงกรานต์ปี 61 สถิติสูงกว่าปี 60 หลังเกิดอุบัติเหตุรวม 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ศพ บาดเจ็บ 3,897 คน คสช ยึดรถขี้เมาก็เพิ่ม 100% จักรทิพย์ เต้น! เตรียมเชือด 3 ผู้การจังหวัด หย่อนยานไม่สนองคำสั่งดูแล ปชช พร้อมรับลูก บิ๊กป้อม คุมเข้ม กมจราจรต่อเนื่องทั้งปี เมื่อวันที่ 18 เมย2561 นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมย ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ในการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร ช่วง 7 วันอันตราย ว่าเกิดอุบัติเหตุ 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ราย บาดเจ็บ 3,897 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์ มี 4 จังหวัด ได้แก่ ระนอง สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู นายสุธีกล่าวว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 133 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 20 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 142 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 4028 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 2650 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 7985 รถปิกอัพ 717 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 6466, ถนนใน อบต/หมู่บ้าน ร้อยละ 3757, บนถนนกรมทางหลวงร้อยละ 3751 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 1601-2000 น ร้อยละ 2865 รมชมหาดไทยกล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุทางถนนเฉพาะวันที่ 17 เมย ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 336 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 2769 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 2573 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 1889 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 8235 รถปิกอัพ 805 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 6645, บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 4235, ถนนใน อบต/หมู่บ้าน ร้อยละ 2964 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 1601-2000 น ร้อยละ 2932 จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนพบสาเหตุหลักยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 7985 ซึ่ง ศปถได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนและต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในรูปแบบการประสานพลังประชารัฐวางกลไกการบริหารจัดการอุบัติเหตุครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยง ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย และรถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย รมชมหาดไทยกล่าว ทั้งนี้ สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนรวม 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 (11-17 เมย60) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,690 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 390 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,808 คน ด้าน พอหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) สรุปมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ตลอดช่วง 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมย2561 ว่า ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการ 490,512 ครั้ง แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 280,631 ครั้ง, รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 209,881 ครั้ง ซึ่งลดลงจากสถิติผู้กระทำผิดในปี 2560 ประมาณร้อยละ 38 สำหรับการยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับในปี 2561 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 16,288 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 11,768 คัน และรถยนต์ 4,520 คัน ซึ่งสถิติการยึดรถเพิ่มขึ้นคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ จากมาตรการดื่มไม่ขับห้วงสงกรานต์ 2560 ยึดรถรวม 8,128 คัน รองโฆษก คสชกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในปีนี้ มีทั้งหมด 310,299 คน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 196,613 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล 113,686 คน ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงจากปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 35 ขณะที่ พลตอจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบตร) กล่าวถึงยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์เพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน โดยให้ทุกส่วนของภาครัฐและเอกชน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมกันหามาตรการ เอาบทสรุปของแต่ละปีมาเป็นตัวตั้ง ซึ่งมาตรการต่างๆ เราสามารถควบคุมได้ แต่วินัยผู้ขับขี่เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นเรื่องสำคัญมาก พลอประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้สั่งการให้ปฏิบัติแบบนี้ตลอดไปด้วยซ้ำ และให้ไปประชุมแต่ละภาค ให้สรุปแต่ละภาคจะมีมาตรการอย่างไรต่อ และให้ออกคำสั่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ไม่เฉพาะเทศกาลต่างๆ เพราะยอดการเสียชีวิตจะอยู่ที่ถนนรอง และถนนชนบท ดังนั้นแต่ละภาคต้องร่วมประชุมหารือร่วมกัน พลตอจักรทิพย์กล่าว ผบตรกล่าวว่า ในส่วนตำรวจในวันที่ 19 เมย ตนจะมีคำสั่งให้ตำรวจระดับผู้บังคับการ 3 จังหวัด มาช่วยราชการ แต่จะตั้งกรรมการสอบหรือไม่ จะพิจารณาอีกที เพราะได้สั่งกำชับการปฏิบัติงานไปแล้วกลับไม่สนองตอบหรือหย่อนยานปล่อยปละละเลย ชีวิตประชาชนสำคัญ เป็นผู้การจังหวัด เป็นหัวหน้าหน่วย การดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็ทำงานอยู่ในพื้นที่ แต่มีส่วนน้อยเท่านั้นเอง ผบตรกล่าว ส่วน พลตอศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบตร กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาปรับปรุงและแก้ไข เพื่อเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลอื่นต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองที่มีการสูญเสีย และเกิดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวคิดจะเพิ่มด่าน จุดสกัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง ศูนย์ความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเพิ่มมาตรการลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไปในอนาคต วันเดียวกัน พลตอเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบตร แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และโครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 ว่า ห้วงวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 8,348 หลัง คืนแล้ว 6,598 หลัง คงเหลือ 1,750 หลัง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 2,421 หลัง หรือคิดเป็นร้อยละ 408 อยู่ระหว่างการคืนบ้านให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัย ไปจนกว่าจะคืนบ้านหลังสุดท้ายให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบตามโครงการว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติกับบ้านที่เข้าร่วมโครงการแต่อย่างใดสำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในต่างประเทศเพื่อชิงความเป็น แชมป์ออฟเดอะแชมป์ ของการแข่งขัน แชมป์ประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ นั้นจะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม เพื่อชิงรางวัลชนะเลิศ เงินสด 200,000 บาท จำนวน 3 รางวัล และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 100,000 บาท จำนวน 3 รางวัล
ช่วงนี้ให้จัดตำรวจสายสืบเข้าไปดูแลหาข่าวในพื้นที่ กรณีที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ พร้อมทั้งติดตามบุคคลที่แปลกหน้า และให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตรวจสอบยานพาหนะทุกฃนิด รวมทั้งใบคู่มือรถ สีรถ ป้ายทะเบียน รวมทั้งให้มีการตรวจสอบรายบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ โดยให้จุดตรวจจุดสกัดให้มีการตรวจเข้มเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้าย และบุคคลที่ต้องสงสัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากสุด แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงระบุ ถึงแม้ว่าสำนักงานพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (ไอรีนา) จะออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน มีแผนลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลกว่า 360,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อที่จะขับเคลื่อนการสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มที่ หลังจากประสบปัญหามลพิษในเมืองใหญ่มาเป็นเวลานาน จนทั่วโลกต้องหันมามองตามคำพูดที่ว่า เมื่อจีนขยับ โลกก็ต้องขยับด้วย หรือแม้กระทั่งประเทศญี่ปุ่นเอง ที่ถูกมองเป็นม้ามืดในการพัฒนาเทคโนโลยีจนติด 1 ใน 3 ศูนย์กลางพลังงานสะอาดจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่หันมาใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าน้ำมัน แต่ก็เชื่อว่าทั้ง 2 ประเทศก็ยังคงต้องพึ่งพาน้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถูกบรรจุเป็น วาระด่วน ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันพฤหัสบดีที่ 19 เมยนี้ กับวาระ เลือกบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช หลังกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทชของ สนช เพิ่งจะประชุมนัดสุดท้ายไปเมื่อ 17 เมยที่ผ่านมา ผู้อำนวยการซีไอเอดอดพบ คิม จองอึน ที่เกาหลีเหนือ 18 เมษายน พศ 2561 เวลา 20:53 น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเมื่อวันพุธ ว่าผู้อำนวยการซีไอเอของสหรัฐแอบเจรจาลับกับ คิม จองอึน ที่กรุงเปียงยางเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่เกาหลีใต้เผยว่ากำลังสำรวจช่องทางทำข้อตกลงสันติภาพกับเกาหลีเหนือ
ก่อนหน้านี้:เว็บ บอล ฟรี เครดิต 2021เงินฟรี
อาจารย์ใหญ่คนสุดท้าย 2021-02-26
ฤดูใบไม้ผลิ นิชิมูระ :ระดับผู้ทรงคุณวุฒิตร 30 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พตอมงคล ฉัตรแก้วบุญเรือง รองผบกภจวอำนาจเจริญ พตอวิรัช เบ้าคำ รองผบกภจวอำนาจเจริญ พตออนุรักษ์ สายทอง รองผบกขส พตอมานูญ เชวงเกียรติ รองผบก(ปฎิบัติงาน กอรมน) สกพ พตอปัญญา สุขเอม รองผบกภจวพิษณุโลก พตอปรีชา กลัดสวัสดิ์ รองผบกภจวสุราษฎร์ธานี พตอทนงศักดิ์ เขมะชิต รองผบกภจวตราด พตอพรพันธ์ ทิมขำ รองผบกภจวชุมพร พตอมาโนชย์ พวงชมภู รองผบกภจวชัยภูมิ พตอนิกร เข็มทอง รองผบกภจวอุทัยธานี พตอภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผบกภจวสิงห์บุรี พตอพิสิฎฐ โปรยรุ่งโรจน์ รองผบกภจวตราด พตอบรรหาญ สมเกียรติ นว(สบ5) ตร พตอคำรณ ยอดรักษ์ รองผบกภจวตรัง พตอณรงค์ฤิทธิ์ ภักดีณรงค์ รองผบกวน พตอจักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ รองผบกภจวหนองบัวลำภู พตอนิคม สภาพพร รองผบกอกภ6 พตอประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รองผบกภจวบุรีรัมย์ พตอชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผบกภจวมหาสารคาม พตออรุณ แตงนารา รองผบกภจวนครสวรรค์ พตอประภาส ปิยะมงคล รองผบกทว พตอสมเจตน์ กาบคำ รองผบกภจวสุรินทร์ พตอเรวดี เปลี่ยนสมัย รองผบกกง พตอชลิฎ วงษ์เจริญกิจ รองผบกภจวสกลนคร พตอประพันธ์ กองมงคล นักกายภาพบำบัด (สบ5) กลุ่มงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพตร พตอวราภรณ์ วินัยสุรเทิน เภสัชกร (สบ5) กลุ่มงานเภสัชกรรม รพตร พตอวรณัฐ วรชาติเดชา อจ(สบ5) กลุ่มงานอาจารย์ บชศ พตอโสภณ ปานสมทรง รองผบกภจวพัทลุง พตอเรืองศักดิ์ อยู่เมี่ยง รองผบกตชดภ1 พตอพิศาล ภุมรินทร์ รองผบกกต7 จต
ชอย กง ฮู 2021-02-26 23:20:10
(อรชุมา ดุรงค์เดช)
ซองติงกงชิน 2021-02-26 23:20:10
ปิดฉาก 7 วันอันตรายสงกรานต์ปี 61 สถิติสูงกว่าปี 60 หลังเกิดอุบัติเหตุรวม 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ศพ บาดเจ็บ 3,897 คน คสช ยึดรถขี้เมาก็เพิ่ม 100% จักรทิพย์ เต้น! เตรียมเชือด 3 ผู้การจังหวัด หย่อนยานไม่สนองคำสั่งดูแล ปชช พร้อมรับลูก บิ๊กป้อม คุมเข้ม กมจราจรต่อเนื่องทั้งปี เมื่อวันที่ 18 เมย2561 นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมย ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ในการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร ช่วง 7 วันอันตราย ว่าเกิดอุบัติเหตุ 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ราย บาดเจ็บ 3,897 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์ มี 4 จังหวัด ได้แก่ ระนอง สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู นายสุธีกล่าวว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 133 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 20 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 142 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 4028 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 2650 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 7985 รถปิกอัพ 717 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 6466, ถนนใน อบต/หมู่บ้าน ร้อยละ 3757, บนถนนกรมทางหลวงร้อยละ 3751 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 1601-2000 น ร้อยละ 2865 รมชมหาดไทยกล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุทางถนนเฉพาะวันที่ 17 เมย ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 336 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 2769 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 2573 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 1889 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 8235 รถปิกอัพ 805 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 6645, บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 4235, ถนนใน อบต/หมู่บ้าน ร้อยละ 2964 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 1601-2000 น ร้อยละ 2932 จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนพบสาเหตุหลักยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 7985 ซึ่ง ศปถได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนและต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในรูปแบบการประสานพลังประชารัฐวางกลไกการบริหารจัดการอุบัติเหตุครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยง ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย และรถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย รมชมหาดไทยกล่าว ทั้งนี้ สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนรวม 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 (11-17 เมย60) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,690 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 390 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,808 คน ด้าน พอหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) สรุปมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ตลอดช่วง 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมย2561 ว่า ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการ 490,512 ครั้ง แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 280,631 ครั้ง, รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 209,881 ครั้ง ซึ่งลดลงจากสถิติผู้กระทำผิดในปี 2560 ประมาณร้อยละ 38 สำหรับการยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับในปี 2561 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 16,288 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 11,768 คัน และรถยนต์ 4,520 คัน ซึ่งสถิติการยึดรถเพิ่มขึ้นคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ จากมาตรการดื่มไม่ขับห้วงสงกรานต์ 2560 ยึดรถรวม 8,128 คัน รองโฆษก คสชกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในปีนี้ มีทั้งหมด 310,299 คน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 196,613 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล 113,686 คน ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงจากปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 35 ขณะที่ พลตอจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบตร) กล่าวถึงยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์เพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน โดยให้ทุกส่วนของภาครัฐและเอกชน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมกันหามาตรการ เอาบทสรุปของแต่ละปีมาเป็นตัวตั้ง ซึ่งมาตรการต่างๆ เราสามารถควบคุมได้ แต่วินัยผู้ขับขี่เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นเรื่องสำคัญมาก พลอประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้สั่งการให้ปฏิบัติแบบนี้ตลอดไปด้วยซ้ำ และให้ไปประชุมแต่ละภาค ให้สรุปแต่ละภาคจะมีมาตรการอย่างไรต่อ และให้ออกคำสั่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ไม่เฉพาะเทศกาลต่างๆ เพราะยอดการเสียชีวิตจะอยู่ที่ถนนรอง และถนนชนบท ดังนั้นแต่ละภาคต้องร่วมประชุมหารือร่วมกัน พลตอจักรทิพย์กล่าว ผบตรกล่าวว่า ในส่วนตำรวจในวันที่ 19 เมย ตนจะมีคำสั่งให้ตำรวจระดับผู้บังคับการ 3 จังหวัด มาช่วยราชการ แต่จะตั้งกรรมการสอบหรือไม่ จะพิจารณาอีกที เพราะได้สั่งกำชับการปฏิบัติงานไปแล้วกลับไม่สนองตอบหรือหย่อนยานปล่อยปละละเลย ชีวิตประชาชนสำคัญ เป็นผู้การจังหวัด เป็นหัวหน้าหน่วย การดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็ทำงานอยู่ในพื้นที่ แต่มีส่วนน้อยเท่านั้นเอง ผบตรกล่าว ส่วน พลตอศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบตร กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาปรับปรุงและแก้ไข เพื่อเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลอื่นต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองที่มีการสูญเสีย และเกิดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวคิดจะเพิ่มด่าน จุดสกัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง ศูนย์ความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเพิ่มมาตรการลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไปในอนาคต วันเดียวกัน พลตอเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบตร แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และโครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 ว่า ห้วงวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 8,348 หลัง คืนแล้ว 6,598 หลัง คงเหลือ 1,750 หลัง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 2,421 หลัง หรือคิดเป็นร้อยละ 408 อยู่ระหว่างการคืนบ้านให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัย ไปจนกว่าจะคืนบ้านหลังสุดท้ายให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบตามโครงการว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติกับบ้านที่เข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด,ผู้อำนวยการซีไอเอดอดพบ คิม จองอึน ที่เกาหลีเหนือ 18 เมษายน พศ 2561 เวลา 20:53 น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเมื่อวันพุธ ว่าผู้อำนวยการซีไอเอของสหรัฐแอบเจรจาลับกับ คิม จองอึน ที่กรุงเปียงยางเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่เกาหลีใต้เผยว่ากำลังสำรวจช่องทางทำข้อตกลงสันติภาพกับเกาหลีเหนือ。ในกรณีคดีทุจริตเงินทอนวัดก็ดี ทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาของพระภิกษุก็ดี หรือทุจริตเงินอุดหนุนพระธรรมทูตก็ดี เข้าข่ายอวหารข้อที่ 8 ว่าด้วยการยักยอก ทีนี้ท่านทั้งหลาย คงพอจะเข้าใจมูลเหตุของอาบัติปาราชิกในข้อหาลักทรัพย์กันพอสมควรแล้ว ต่อไปเราท่านทั้งหลาย ก็มาคอยลุ้น คอยเชียร์ท่าน ผอสำนักพุทธ ว่าจะสามารถลากไส้เน่าในองค์กรปกครองสงฆ์มากำจัดได้หรือไม่ เพราะยังมีเงินอุดหนุนพระธรรมทูต เงินอุดหนุนโครงการบ้านศีลห้า เงินอุดหนุนการจัดกิจกรรมพิเศษในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนมหาลัยสงฆ์ ทั้งสองแห่งที่หายไปและถูกนำไปใช้ผิดประเภท ซึ่งก็รอ ผอสำนักพุทธ ปปป ปปช คสช เข้าไปตรวจสอบว่าเงินมันรั่วไหลหายไปไหน。
Wenbra Rolan องศา 2021-02-26 23:20:10
นพธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมวศธ) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (กคศ) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการย้ายรอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (รองผอสพท) 110 ราย แยกเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 86 รายและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 24 ราย,3ผู้การฯ หนาว! จักรทิพย์ จ่อฟันเซ่นสงกรานต์ตายพุ่ง 18 เมษายน พศ 2561 เวลา 17:00 น 。ระดับผู้ทรงคุณวุฒิตร 30 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พตอมงคล ฉัตรแก้วบุญเรือง รองผบกภจวอำนาจเจริญ พตอวิรัช เบ้าคำ รองผบกภจวอำนาจเจริญ พตออนุรักษ์ สายทอง รองผบกขส พตอมานูญ เชวงเกียรติ รองผบก(ปฎิบัติงาน กอรมน) สกพ พตอปัญญา สุขเอม รองผบกภจวพิษณุโลก พตอปรีชา กลัดสวัสดิ์ รองผบกภจวสุราษฎร์ธานี พตอทนงศักดิ์ เขมะชิต รองผบกภจวตราด พตอพรพันธ์ ทิมขำ รองผบกภจวชุมพร พตอมาโนชย์ พวงชมภู รองผบกภจวชัยภูมิ พตอนิกร เข็มทอง รองผบกภจวอุทัยธานี พตอภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผบกภจวสิงห์บุรี พตอพิสิฎฐ โปรยรุ่งโรจน์ รองผบกภจวตราด พตอบรรหาญ สมเกียรติ นว(สบ5) ตร พตอคำรณ ยอดรักษ์ รองผบกภจวตรัง พตอณรงค์ฤิทธิ์ ภักดีณรงค์ รองผบกวน พตอจักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ รองผบกภจวหนองบัวลำภู พตอนิคม สภาพพร รองผบกอกภ6 พตอประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รองผบกภจวบุรีรัมย์ พตอชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผบกภจวมหาสารคาม พตออรุณ แตงนารา รองผบกภจวนครสวรรค์ พตอประภาส ปิยะมงคล รองผบกทว พตอสมเจตน์ กาบคำ รองผบกภจวสุรินทร์ พตอเรวดี เปลี่ยนสมัย รองผบกกง พตอชลิฎ วงษ์เจริญกิจ รองผบกภจวสกลนคร พตอประพันธ์ กองมงคล นักกายภาพบำบัด (สบ5) กลุ่มงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพตร พตอวราภรณ์ วินัยสุรเทิน เภสัชกร (สบ5) กลุ่มงานเภสัชกรรม รพตร พตอวรณัฐ วรชาติเดชา อจ(สบ5) กลุ่มงานอาจารย์ บชศ พตอโสภณ ปานสมทรง รองผบกภจวพัทลุง พตอเรืองศักดิ์ อยู่เมี่ยง รองผบกตชดภ1 พตอพิศาล ภุมรินทร์ รองผบกกต7 จต。
คิม ซอน ชิน 2021-02-26 23:20:10
ปิดฉาก 7 วันอันตรายสงกรานต์ปี 61 สถิติสูงกว่าปี 60 หลังเกิดอุบัติเหตุรวม 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ศพ บาดเจ็บ 3,897 คน คสช ยึดรถขี้เมาก็เพิ่ม 100% จักรทิพย์ เต้น! เตรียมเชือด 3 ผู้การจังหวัด หย่อนยานไม่สนองคำสั่งดูแล ปชช พร้อมรับลูก บิ๊กป้อม คุมเข้ม กมจราจรต่อเนื่องทั้งปี เมื่อวันที่ 18 เมย2561 นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมย ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ในการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร ช่วง 7 วันอันตราย ว่าเกิดอุบัติเหตุ 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ราย บาดเจ็บ 3,897 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์ มี 4 จังหวัด ได้แก่ ระนอง สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู นายสุธีกล่าวว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 133 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 20 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 142 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 4028 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 2650 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 7985 รถปิกอัพ 717 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 6466, ถนนใน อบต/หมู่บ้าน ร้อยละ 3757, บนถนนกรมทางหลวงร้อยละ 3751 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 1601-2000 น ร้อยละ 2865 รมชมหาดไทยกล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุทางถนนเฉพาะวันที่ 17 เมย ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 336 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 2769 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 2573 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 1889 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 8235 รถปิกอัพ 805 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 6645, บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 4235, ถนนใน อบต/หมู่บ้าน ร้อยละ 2964 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 1601-2000 น ร้อยละ 2932 จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนพบสาเหตุหลักยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 7985 ซึ่ง ศปถได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนและต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในรูปแบบการประสานพลังประชารัฐวางกลไกการบริหารจัดการอุบัติเหตุครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยง ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย และรถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย รมชมหาดไทยกล่าว ทั้งนี้ สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนรวม 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 (11-17 เมย60) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,690 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 390 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,808 คน ด้าน พอหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) สรุปมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ตลอดช่วง 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมย2561 ว่า ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการ 490,512 ครั้ง แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 280,631 ครั้ง, รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 209,881 ครั้ง ซึ่งลดลงจากสถิติผู้กระทำผิดในปี 2560 ประมาณร้อยละ 38 สำหรับการยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับในปี 2561 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 16,288 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 11,768 คัน และรถยนต์ 4,520 คัน ซึ่งสถิติการยึดรถเพิ่มขึ้นคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ จากมาตรการดื่มไม่ขับห้วงสงกรานต์ 2560 ยึดรถรวม 8,128 คัน รองโฆษก คสชกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในปีนี้ มีทั้งหมด 310,299 คน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 196,613 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล 113,686 คน ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงจากปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 35 ขณะที่ พลตอจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบตร) กล่าวถึงยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์เพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน โดยให้ทุกส่วนของภาครัฐและเอกชน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมกันหามาตรการ เอาบทสรุปของแต่ละปีมาเป็นตัวตั้ง ซึ่งมาตรการต่างๆ เราสามารถควบคุมได้ แต่วินัยผู้ขับขี่เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นเรื่องสำคัญมาก พลอประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้สั่งการให้ปฏิบัติแบบนี้ตลอดไปด้วยซ้ำ และให้ไปประชุมแต่ละภาค ให้สรุปแต่ละภาคจะมีมาตรการอย่างไรต่อ และให้ออกคำสั่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ไม่เฉพาะเทศกาลต่างๆ เพราะยอดการเสียชีวิตจะอยู่ที่ถนนรอง และถนนชนบท ดังนั้นแต่ละภาคต้องร่วมประชุมหารือร่วมกัน พลตอจักรทิพย์กล่าว ผบตรกล่าวว่า ในส่วนตำรวจในวันที่ 19 เมย ตนจะมีคำสั่งให้ตำรวจระดับผู้บังคับการ 3 จังหวัด มาช่วยราชการ แต่จะตั้งกรรมการสอบหรือไม่ จะพิจารณาอีกที เพราะได้สั่งกำชับการปฏิบัติงานไปแล้วกลับไม่สนองตอบหรือหย่อนยานปล่อยปละละเลย ชีวิตประชาชนสำคัญ เป็นผู้การจังหวัด เป็นหัวหน้าหน่วย การดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็ทำงานอยู่ในพื้นที่ แต่มีส่วนน้อยเท่านั้นเอง ผบตรกล่าว ส่วน พลตอศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบตร กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาปรับปรุงและแก้ไข เพื่อเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลอื่นต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองที่มีการสูญเสีย และเกิดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวคิดจะเพิ่มด่าน จุดสกัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง ศูนย์ความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเพิ่มมาตรการลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไปในอนาคต วันเดียวกัน พลตอเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบตร แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และโครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 ว่า ห้วงวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 8,348 หลัง คืนแล้ว 6,598 หลัง คงเหลือ 1,750 หลัง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 2,421 หลัง หรือคิดเป็นร้อยละ 408 อยู่ระหว่างการคืนบ้านให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัย ไปจนกว่าจะคืนบ้านหลังสุดท้ายให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบตามโครงการว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติกับบ้านที่เข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด,บีโอไอเผยสัญญาณการลงทุนปีนี้มีทิศทางดี ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรกปี 61 มูลค่าเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท จับตาการยื่นลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโตกว่าปีก่อนที่ 17 หมื่นล。พันธมิตรปฎิรูปการค้าน้ำตาลโลก เรียกร้องมาตรการอุดหนุนการผลิตและส่งออกของปากีสถาน และอินเดีย หวั่นผลักผลผลิตน้ำตาลส่วนเกินออกสู่ตลาดโลก ส่งผลราคาในตลาดโลกวูบ พร้อมเตรียมออกแถลงการณ์ร่วม 8 พคนี้ 。
Zhao Wei 2021-02-26 23:20:10
ศาลสั่งจำคุกกว่าร้อยปี เจ๊เมย์-เจ๊ฟ้า คดีค้ากามแก๊งนกฮูกน้ำเพียงดิน ส่วน ดาบยุทธ เป็นข้าราชการบวกโทษสองเท่าโดน 320 ปี พรรคพวกที่เหลืออีก 5 คนเจอคุกเรียงตัวตั้งแต่ 8-36 ปี พร้อมชดใช้ค่าเสียหายกว่า 17 ล้าน เมื่อเวลา 1200 น วันที่ 18 เมษายนนี้ ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี กรณีค้ากามแก๊งนกฮูก ที่บ้านน้ำเพียงดิน จแม่ฮ่องสอน หมายเลขดำ คม42/2560 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นสปิยะวรรณ หรือเมย์ สุขมาก อายุ 27 ปี, นสปิยทัศน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ อายุ 31 ปี, ดตยุทธชัย หรือดาบยุทธ ทองชาติ อายุ 43 ปี สังกัด สภน้ำเพียงดิน จแม่ฮ่องสอน กับพวกรวม 8 คนเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี ตาม พรบป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พศ2551, พรบป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พศ2539 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282, 283, 317, 319 กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-31 ธันวาคม 2557 พวกจำเลยได้ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเพื่อการค้ามนุษย์ ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อค้าประเวณี โดยพราก นสเปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง เพื่อการค้าประเวณีเพื่อหากำไร และเพื่อการอนาจาร โดยจำเลยได้รับส่วนแบ่งค่านายหน้า บังคับให้ผู้เสียหายค้าประเวณี เหตุเกิดที่ อเมือง จแม่ฮ่องสอน จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยที่ 1-3 จากเรือนจำมาศาล ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 5 คนที่ได้รับการประกันตัว คือนายมงคล หรือแป๊ะ เกียรติภัคดิพงศ์ อายุ 31 ปี, นสปัทมพร หรืออึง อิ่นแก้ว อายุ 32 ปี, นสกนกวรรณ หรือละม่อม รัตนภักดี อายุ 23 ปี, นสขวัญหทัย หรือตั๊ก ฤกษ์อุดม อายุ 40 ปี และ นสกัลยา หรือจอย วุฒิคุณ อายุ 41 ปี เดินทางมาศาล ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้ง 8 กระทำความผิดตามฟ้อง โดยจำเลยที่ 3 เป็นข้าราชการต้องระวางโทษ 2 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานค้ามนุษย์ การกระทำของจำเลยทั้ง 8 เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป เมื่อรวมโทษแล้วพิพากษาให้จำคุก นสปิยะวรรณ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 167 ปี, นสปิยทัศน์ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 176 ปี และ ดตยุทธชัย จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 320 ปี แต่ให้คงจำคุกจำเลยทั้งสามได้สูงสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) เป็นจำคุกคนละ 50 ปี และให้จำคุกนายมงคล จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 19 ปี, นสปัทมพร จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 12 ปี, นสกนกวรรณ จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 8 ปี, นสขวัญหทัย จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 32 ปี และ นสกัลยา จำเลยที่ 8 เป็นเวลา 36 ปี พร้อมให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 850,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 700,000 บาท ให้จำเลยที่ 4-6 ร่วมกันชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 20,000 บาท ให้จำเลยที่ 7 ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 50,000 บาท ให้จำเลยที่ 8 ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 60,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และให้จำเลยทั้ง 8 ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 75 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (19 กค2560) เป็นต้นไป, ยูเนสโกประกาศให้อุทยานธรณีสตูลเป็นอุทยานธรณีโลก ผู้ว่าฯ เตรียมเชิญตัวแทนด้านการท่องเที่ยวและส่วนท้องถิ่น ร่วมหารือเตรียมยุทธศาสตร์วางมาตรฐานการท่องเที่ยว ย้ำสิ่งสำคัญต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยถึงองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ประกาศให้อุทยานธรณีสตูล (Satun Geopark) เป็นอุทยานธรณีโลก (Satun UNESCO Global Geopark) เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 หลังผ่านการประเมินหลักเกณฑ์คุณสมบัติของยูเนสโก ว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่อุทยานธรณีสตูลได้ก้าวขึ้นสู่อุทยานธรณีโลกแห่งแรกของประเทศไทย เนื่องจากเป็นปรากฏจริงตามหลักฐานทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะซากฟอสซิลต่างๆ มีปรากฏชั้นหิน ชั้นดิน จุดน่าสนใจที่เรียกว่า จีโอพาร์กไซด์ มีการนำเสนอถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ทางยูเนสโกระบุว่าน่าสนใจอยู่ 30% ตรงนี้พอสรุปว่ามีอยู่มาก การที่ได้เป็นอุทยานธรณีโลกนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวและกีฬา หรือท้องถิ่น เพื่อวางยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวให้สอดคล้องกันอย่างครบวงจร มีมาตรฐาน โดยมีภาครัฐทำหน้าที่สนับสนุน เมื่อนักท่องเที่ยวมาแล้วก็ต้องเป็นเจ้าภาพที่ดี อาหาร ที่พักต้องสะอาด ราคาสมเหตุสมผล ไม่โก่งราคา ต้องเป็นมาตรฐาน ที่สำคัญต้องปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเดินทางไปล่องแก่ง เข้าถ้ำต่างๆ คนที่อยากมาเที่ยว เราจะพาเขาไปดูอะไรบ้าง แล้วชุมชนจะมีรายได้จากตรงไหนบ้าง ตรงนี้ต้องทำให้ดี นายภัทรพนธ์กล่าว ผู้ว่าฯ สตูลกล่าวว่า ในส่วนโครงการใหญ่อย่าง ท่าเรือน้ำลึกปากบารา หรือโครงการเหมืองหิน ที่หลายคนกังวลถึงผลกระทบนั้น ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเรื่องกัน เป็นเรื่องเฉพาะ สำหรับอุทยานธรณีสตูล (Satun Geopark) ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดสตูล คือ ทุ่งหว้า มะนัง ละงู และ อเมือง ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหินปูน มีเกาะน้อยใหญ่ และชายหาดที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ มากมายด้วยประวัติศาสตร์ และมีวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์。สำหรับงานแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2560 แบ่งเป็นการแข่งขันออกเป็น 6 ประเภทสายงาน ได้แก่ ที่ปรึกษาการขาย เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ ช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา ช่างเทคนิคซ่อมบำรุงตามระยะ ที่ปรึกษางานบริการ และพนักงานอะไหล่ โดยในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ยกระดับการประเมินผู้เข้าแข่งขันให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยการจัดให้มีการทดสอบล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์เป็นปีแรก สำหรับสายงานที่ปรึกษาการขายและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ ทั้งในรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค และก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิในปีที่ 18 นี้ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันระดับภูมิภาคมากกว่า 1,700 คน จากเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 5 เขต ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ คัดเลือกจนได้ผู้เข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ 60 คน ซึ่งจัดขึ้น ณ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ลำลูกกา ปทุมธานี เน้นการทดสอบโดยจำลองสถานการณ์และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจริงในการทำงาน พิจารณาตัดสินที่ความเชี่ยวชาญ ความเป็นเลิศในการให้บริการตามมาตรฐานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส และเพื่อการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังจัดการแข่งขันประเภทนักศึกษาอาชีวะจากโครงการสนับสนุนอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นโครงการที่ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสด้านการศึกษาและพัฒนาอาชีพในสาขาวิชาช่างเทคนิคยานยนต์ให้กับเยาวชน 。