================================================== -->
สิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ปิดตำนานสวนสัตว์ดุสิตที่ก่อตั้งมา 120 ปี เพื่อย้ายไปอยู่ที่ใหม่ที่คลอง 6 ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน 300 ไร่ ลดความแออัดของสัตว์จำนวนมาก องค์การสวนสัตว์นัดแถลง 14 สคนี้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ประชาสัมพันธ์สวนสัตว์ดุสิตแจ้งว่า ทางสวนสัตว์ดุสิตจะเปิดให้บริการจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2561 เพื่อทยอยเคลื่อนย้ายสัตว์ออกไปจัดแสดง ณ สวนสัตว์ต่างๆ ภายใต้การบริหารขององค์การสวนสัตว์ จำนวน 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี และสวนสัตว์ขอนแก่น โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ขณะที่สวนสัตว์ดุสิตจะย้ายไปเปิดให้บริการในพื้นที่แห่งใหม่ บริเวณคลอง 6 ตรังสิต อธัญบุรี จปทุมธานี สำหรับพื้นที่แห่งใหม่ดังกล่าว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ต่อประชาชนชาวไทยและชาวองค์การสวนสัตว์ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 พระราชทานโฉนดที่ดิน จำนวน 300 ไร่ ให้กับองค์การสวนสัตว์ เพื่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ จัดว่ามีขนาดใหญ่กว่าสวนสัตว์ดุสิตเดิมถึง 3 เท่า ทำให้สัตว์มีพื้นที่ที่อยู่อย่างสบาย มีอากาศที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาสำรวจข้อมูลในด้านต่างๆ แล้ว เพื่อให้สภาพแวดล้อมสวนสัตว์ใหม่ออกมาอย่างดีที่สุด ถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากล ในส่วนของประชาชนที่จะเดินทางมาเที่ยวชมสวนสัตว์ดุสิตในช่วงนี้ ทางสวนสัตว์ดุสิตได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการต่างๆ ไว้แล้ว โดยขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่านด้วยว่า ให้เข้าชมด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งนี้ องค์การสวนสัตว์จะจัดแถลงข่าวเพื่อเชิญสื่อมวลชนให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องครบถ้วนอย่างเป็นทางการ ในวันอังคารที่ 14 สิงหาคมนี้ สวนสัตว์ดุสิต หรือเขาดินวนา เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่เลขที่ 71 ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ใกล้กับสนามเสือป่าและพระที่นั่งอนันตสมาคม มีเนื้อที่ 118 ไร่ สวนสัตว์ดุสิตอยู่ในอาณาบริเวณของ วังสวนดุสิต มาตั้งแต่ พศ2441 เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อสวนและนาในระหว่างคลองผดุงกรุงเกษม จนถึงคลองสามเสน ด้านตะวันออกถึงทางรถไฟ ด้วยเงินพระคลังข้างที่ ซึ่งเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ โดยพระราชทานชื่อที่ตำบลนี้ว่า สวนดุสิต (ราชกิจจานุเบกษา 7 มีนาคม รศ117) ปัจจุบันเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 18 มีนาคม 2481 เทศบาลนครกรุงเทพขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตดัดแปลงบริเวณสวนสัตว์ดุสิตเป็นสวนสาธารณะ เปิดให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจโดยมิต้องมีค่าเช่า และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นสวนสาธารณะ และยังพระราชทานลูกหลานกวางดาวที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาจากอินโดนีเซีย ที่เมืองบุยเตนซอค (Buitenzurg) เมื่อการเสด็จประพาสเกาะชวาครั้งหลัง พศ2444 (รศ 120) และสัตว์อื่นอีก 2-3 ชนิดจากสวนกวางบริเวณพระที่นั่งอัมพรสถานมาเลี้ยง โอนกิจการสวนสัตว์ดุสิตของเทศบาลนครกรุงเทพ ซึ่งอยู่ในความควบคุมของกระทรวงมหาดไทย มาอยู่กับองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พศ2497) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อทรงรับองค์การสวนสัตว์เข้าไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงรับองค์การสวนสัตว์เข้าไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2506 จากการขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ของพลโทบัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการและผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ วันที่ 30 พฤศจิกายน พศ2560 นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้นำคณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อรับพระราชทานโฉนดที่ดินบริเวณตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 300 ไร่ โดยย้ายไปยังที่ใหม่ เนื่องจากที่เก่านั้นมีพื้นที่คับแคบและไม่เพียงพอกับจำนวนสัตว์และนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน เป็นการปิดตำนานสวนสัตว์แห่งแรกของไทยที่มีอายุถึง 120 ปี
ความจริง เปิดโทรทัศน์แช่ไว้ทุกเย็น ถึงตาไม่ได้ดู แต่หูเงี่ยฟังตลอด สนใจตอนไหน หูก็ดึงตามาจ้องซะที
โพสต์บล็อกทั้งหมด(250)
การจำแนกประเภท: เครือข่ายวิทยุจีน
55slotxo, ตั้งแต่ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ ก็ดูเหมือนว่า แพท-ณปภา ตันตระกูล จะฮอตไม่ใช่เล่น มีงานรุมติดต่อเข้ามามากมาย แต่เจ้าตัวยังยืนยันว่าในตอนนี้ถ้าเป็นละครยังขอรับของช่อง 3 แค่ที่เดียว ส่วนบทบาทไม่ยึดติดว่าต้องเป็นนางเอกเสมอไป เพราะทุกตัวละครก็มีคุณค่าทั้งนั้น ยาแรงคอร์รัปชันประกาศในราชกิจจาฯ แล้ว โครงการประมูลงานมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้าน ผู้ประกอบการต้องแนบเอกสารนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตด้วย เข้มระบบตรวจสอบภายในให้กำหนดบทลงโทษคนโกง ส่วนโครงการตั้งแต่ 1 พันล้านบาทให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม พร้อมให้มีผู้สังเกตการณ์ตรวจสอบอีกชั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศต่อต้านการคอร์รัปชัน จากคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต รวม 2 ฉบับ ฉบับแรก เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของนโยบายและแนวทางป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่ผู้ประกอบการต้องจัดให้มี ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พศ2560 สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ กำหนดให้ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการที่มีวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องจัดให้มีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสม และระบุเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ประกาศฉบับนี้กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องมีการกำหนดนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง อาทิ มีการกำหนดนโยบาย วิธีการหรือมาตรการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง มีการกำหนดหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องครอบคลุม นอกจากนี้ ยังระบุให้กรรมการผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ โดยจะต้องห้ามมิให้ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนบุคคลที่สาม ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการมีการติดสินบน ประกอบด้วย ไม่ให้ เสนอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือจูงใจให้ร่วมดำเนินการใดๆ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม อันเป็นการให้ประโยชน์ในการเสนอราคา หรือการสมยอมกันในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ อันนำมาซึ่งความได้เปรียบและได้รับผลประโยชน์ตอบแทนบางประการในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการปฏิบัติงานตามสัญญา ทั้งก่อนระหว่างการเสนอราคา และหลังการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง หรือเพื่อรักษาผลประโยชน์อื่นใดอันไม่เหมาะสมตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ กำหนดผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีการสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น จัดให้มีการสื่อสารประกาศหรือเผยแพร่นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้กับคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้รับทราบต้องกำหนดบทลงโทษคนโกง จัดให้มีการอบรมหรือส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานได้รับการอบรมเกี่ยวกับนโยบาย วิธีการหรือมาตรการป้องกันการทุจริตที่บริษัทหรือหน่วยงานอื่นจัดขึ้น จัดให้มีการเผยแพร่นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างให้กับบุคคลภายนอกทราบผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายสารสนเทศของหน่วยงาน เอกสารแผ่นพับ นอกจากนี้ ต้องกำหนดบทลงโทษหรือข้อบังคับสำหรับผู้กระทำการทุจริต จัดให้มีช่องทางหรือระบบการแจ้งเบาะแส ของข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริต หรือพบการกระทำที่ส่อทุจริต กำหนดหน่วยงานภายในที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการป้องกันการทุจริตที่ชัดเจน ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องแนบเอกสารที่เป็นนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเสนอราคา และกำหนดให้หน่วยงานของรัฐกำหนดเงื่อนไขในขอบเขตของงาน และประกาศจัดซื้อจัดจ้างว่าคุณสมบัติผู้เข้าร่วมการเสนอราคาจะต้องมีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งต้องแนบเอกสารหลักฐาน และแบบตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบเป็นเอกสารการเสนอราคา โดยผู้ประกอบการจะต้องมีการดำเนินการตามแบบตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนทุกข้อจึงจะผ่านการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา สำหรับประกาศฉบับที่ 2 เรื่อง แนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กำหนดให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (คปท) ออกประกาศกำหนดแนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แบบของข้อตกลงคุณธรรม การคัดเลือกผู้สังเกตการณ์และการจัดทำรายงานข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้ ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact: IP) หมายความว่า ข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ เจ้าของโครงการและผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอ โดยฝ่ายหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการและฝ่ายผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอได้ตกลงกันว่าจะไม่กระทำการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง และให้มีผู้สังเกตการณ์ ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่จำเป็นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างและร่างเอกสารเชิญชวนจนถึงขั้นตอนสิ้นสุดโครงการ โดยผู้สังเกตการณ์ต้องมีความเป็นกลาง และไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น และให้รายงานความเห็นพร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ คปท การจัดทำข้อตกลงคุณธรรม ต้องเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่สาธารณชนสนใจ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการที่มีความเสี่ยงในการทุจริต เป็นต้น เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้แจ้งข้อมูลโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้คณะกรรมการ คปท ภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณเพื่อพิจารณาคัดเลือกให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้จัดทำตามแบบและวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมตประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช) มีมติชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการ พศ กับพวกทุจริตเงินทอนวัดใน จลำปาง แพร่ และลำพูน ว่า ปปชต้องดำเนินการตามหน้าที่ เพราะข้อกล่าวหาและคดีต่างๆ อยู่ในการตรวจสอบของแต่ละหน่วยงานอยู่แล้วเชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนกำกับดูแล พศ จะมีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก โดยได้มีมาตรการกำหนดรายชื่อวัดมาล่วงหน้าในการของบประมาณ และให้ พศ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ) คณะสงฆ์ทั่วประเทศ ให้ทำงานกันใกล้ชิดมากขึ้น ยึดหลักสุจริต โปร่งใส ซึ่งตนกำชับมาตลอด เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น และถ้าดูผู้กระทำความผิดก็เป็นคนกลุ่มเดิมๆ แต่คนส่วนใหญ่ของ พศทำงานตามแนวทางที่มีธรรมาภิบาล ถ้าพบอีกก็ต้องดำเนินการตามระเบียบราชการ ด้านนายณพล ใบเงิน ทนายความข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัด เปิดเผยภายหลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการเข้าเยี่ยมนายพนม รวมทั้งข้าราชการระดับสูงที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด เช่น นายชยพล พงษ์สีดา, นายแก้ว ชิดตะขบ, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตจรี, นายสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ และนางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าหลังได้เข้าเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 พบว่าทุกคนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถปรับตัวได้บ้างแล้ว โดยทั้งหมดยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดใดๆ ทุกการกระทำปฏิบัติไปตามหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณให้กับวัดต่างๆ และยืนยันจะต่อสู้คดีต่อไป ทั้งนี้ จากการพูดคุยในเรื่องการต่อสู้คดีวันนี้คงไม่ไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่คัดค้านการประกันตัวที่ศาลาอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยจะเดินทางไปยื่นอุทธรณ์ในวันศุกร์ที่ 10 สคนี้ ที่เป็นวันเดียวกับที่ทั้งหมดจะต้องถูกนำตัวไปยื่นฝากขังในผลัดที่ 2 แต่ก็พบว่ามีบางคน เช่น นายพัฒนาที่อาจไม่พร้อมขอยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากไม่พร้อมเรื่องหลักทรัพย์ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กำหนดไว้ในคดีนี้ที่ 300,000-800,000 บาท ส่วนคนที่พร้อม เช่น นายพนมและนายแก้ว ก็มีความกังวลหากศาลเห็นชอบให้ประกันตัว ก็อาจจะถูกอายัดตัวไปดำเนินคดีในคดีอื่นต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้นายพนมก็เข้าใจดี เพราะโดนตำรวจแจ้งเอาผิดหลายคดี แม้ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่เมื่อมีประเด็นนี้เกิดขึ้น ก็ขอพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งทุจริต พม กรณีที่ ปปชชี้มูลความผิดวินัยข้าราชการร้ายแรง กับนายพนม ตนยังไม่ได้แจ้งข้อมูลให้นายพนมรับทราบ และไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ เพราะตนก็ยังไม่เห็นเอกสารใดๆ จาก ปปช ส่วนตัวก็คงจะขอทำหน้าที่ในส่วนคดีที่รับผิดชอบไปก่อน พลออนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีผลสอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้องกับทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัด พม ได้ลงนามรับรองมติผลการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง พม (อกพกระทรวง พม) ที่เห็นชอบผลการสอบวินัยร้ายแรงผู้บริหารระดับสูง 26 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งมีมติไล่ออกขาดจากบำเหน็จบำนาญทั้งหมด 6 คน โดยในจำนวนนี้ มีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม ที่เสียชีวิตรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีมติปลดออกจากราชการ แต่ยังได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ จำนวน 5 คน และกันไว้เป็นพยาน 15 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือกล่าวโทษแจ้งเป็นรายบุคคล ขณะเดียวกันจะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปท) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง) เพื่อให้รับทราบเช่นเดียวกัน โดยผู้ถูกกล่าวโทษทั้งหมด หลังจากได้รับหนังสือแจ้งแล้ว สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน บา คา ร่า 007 ความจริง เปิดโทรทัศน์แช่ไว้ทุกเย็น ถึงตาไม่ได้ดู แต่หูเงี่ยฟังตลอด สนใจตอนไหน หูก็ดึงตามาจ้องซะที ความจริง เปิดโทรทัศน์แช่ไว้ทุกเย็น ถึงตาไม่ได้ดู แต่หูเงี่ยฟังตลอด สนใจตอนไหน หูก็ดึงตามาจ้องซะที
ความจริง เปิดโทรทัศน์แช่ไว้ทุกเย็น ถึงตาไม่ได้ดู แต่หูเงี่ยฟังตลอด สนใจตอนไหน หูก็ดึงตามาจ้องซะทีกฟผยืนยันลาวเบรกสร้างเขื่อนไม่กระทบการใช้ไฟฟ้าของไทย 09 สิงหาคม พศ 2561 เวลา 07:27 น ในบรรดาพวก นักรบโซเชียล นั้นถ้าให้ลองไล่เรียง จัดอันดับ อดีตศิลปิน นักแต่งเพลง อย่างคุณพี่ ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค นั้น น่าจะจัดอยู่ในประเภทมือวางอันดับต้นๆ ประมาณ ราฟาเอล นาดาล, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หรือ โนวัค ยอโควิช อะไรประมาณนั้น คือถึงจะไม่ใช่ อันดับหนึ่ง ในบางช่วง บางระยะ แต่ก็ไม่ถึงกับหล่นไปไกลเกินกว่าอันดับแปด อันดับสิบ โดยเฉพาะถ้าหากคิดจะลงแข่งอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ยาแรงคอร์รัปชันประกาศในราชกิจจาฯ แล้ว โครงการประมูลงานมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้าน ผู้ประกอบการต้องแนบเอกสารนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตด้วย เข้มระบบตรวจสอบภายในให้กำหนดบทลงโทษคนโกง ส่วนโครงการตั้งแต่ 1 พันล้านบาทให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม พร้อมให้มีผู้สังเกตการณ์ตรวจสอบอีกชั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศต่อต้านการคอร์รัปชัน จากคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต รวม 2 ฉบับ ฉบับแรก เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของนโยบายและแนวทางป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่ผู้ประกอบการต้องจัดให้มี ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พศ2560 สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ กำหนดให้ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการที่มีวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องจัดให้มีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสม และระบุเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ประกาศฉบับนี้กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องมีการกำหนดนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง อาทิ มีการกำหนดนโยบาย วิธีการหรือมาตรการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง มีการกำหนดหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องครอบคลุม นอกจากนี้ ยังระบุให้กรรมการผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ โดยจะต้องห้ามมิให้ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนบุคคลที่สาม ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการมีการติดสินบน ประกอบด้วย ไม่ให้ เสนอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือจูงใจให้ร่วมดำเนินการใดๆ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม อันเป็นการให้ประโยชน์ในการเสนอราคา หรือการสมยอมกันในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ อันนำมาซึ่งความได้เปรียบและได้รับผลประโยชน์ตอบแทนบางประการในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการปฏิบัติงานตามสัญญา ทั้งก่อนระหว่างการเสนอราคา และหลังการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง หรือเพื่อรักษาผลประโยชน์อื่นใดอันไม่เหมาะสมตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ กำหนดผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีการสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น จัดให้มีการสื่อสารประกาศหรือเผยแพร่นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้กับคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้รับทราบต้องกำหนดบทลงโทษคนโกง จัดให้มีการอบรมหรือส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานได้รับการอบรมเกี่ยวกับนโยบาย วิธีการหรือมาตรการป้องกันการทุจริตที่บริษัทหรือหน่วยงานอื่นจัดขึ้น จัดให้มีการเผยแพร่นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างให้กับบุคคลภายนอกทราบผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายสารสนเทศของหน่วยงาน เอกสารแผ่นพับ นอกจากนี้ ต้องกำหนดบทลงโทษหรือข้อบังคับสำหรับผู้กระทำการทุจริต จัดให้มีช่องทางหรือระบบการแจ้งเบาะแส ของข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริต หรือพบการกระทำที่ส่อทุจริต กำหนดหน่วยงานภายในที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการป้องกันการทุจริตที่ชัดเจน ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องแนบเอกสารที่เป็นนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเสนอราคา และกำหนดให้หน่วยงานของรัฐกำหนดเงื่อนไขในขอบเขตของงาน และประกาศจัดซื้อจัดจ้างว่าคุณสมบัติผู้เข้าร่วมการเสนอราคาจะต้องมีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งต้องแนบเอกสารหลักฐาน และแบบตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบเป็นเอกสารการเสนอราคา โดยผู้ประกอบการจะต้องมีการดำเนินการตามแบบตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนทุกข้อจึงจะผ่านการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา สำหรับประกาศฉบับที่ 2 เรื่อง แนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กำหนดให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (คปท) ออกประกาศกำหนดแนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แบบของข้อตกลงคุณธรรม การคัดเลือกผู้สังเกตการณ์และการจัดทำรายงานข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้ ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact: IP) หมายความว่า ข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ เจ้าของโครงการและผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอ โดยฝ่ายหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการและฝ่ายผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอได้ตกลงกันว่าจะไม่กระทำการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง และให้มีผู้สังเกตการณ์ ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่จำเป็นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างและร่างเอกสารเชิญชวนจนถึงขั้นตอนสิ้นสุดโครงการ โดยผู้สังเกตการณ์ต้องมีความเป็นกลาง และไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น และให้รายงานความเห็นพร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ คปท การจัดทำข้อตกลงคุณธรรม ต้องเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่สาธารณชนสนใจ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการที่มีความเสี่ยงในการทุจริต เป็นต้น เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้แจ้งข้อมูลโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้คณะกรรมการ คปท ภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณเพื่อพิจารณาคัดเลือกให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้จัดทำตามแบบและวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมตประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช) มีมติชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการ พศ กับพวกทุจริตเงินทอนวัดใน จลำปาง แพร่ และลำพูน ว่า ปปชต้องดำเนินการตามหน้าที่ เพราะข้อกล่าวหาและคดีต่างๆ อยู่ในการตรวจสอบของแต่ละหน่วยงานอยู่แล้วเชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนกำกับดูแล พศ จะมีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก โดยได้มีมาตรการกำหนดรายชื่อวัดมาล่วงหน้าในการของบประมาณ และให้ พศ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ) คณะสงฆ์ทั่วประเทศ ให้ทำงานกันใกล้ชิดมากขึ้น ยึดหลักสุจริต โปร่งใส ซึ่งตนกำชับมาตลอด เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น และถ้าดูผู้กระทำความผิดก็เป็นคนกลุ่มเดิมๆ แต่คนส่วนใหญ่ของ พศทำงานตามแนวทางที่มีธรรมาภิบาล ถ้าพบอีกก็ต้องดำเนินการตามระเบียบราชการ ด้านนายณพล ใบเงิน ทนายความข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัด เปิดเผยภายหลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการเข้าเยี่ยมนายพนม รวมทั้งข้าราชการระดับสูงที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด เช่น นายชยพล พงษ์สีดา, นายแก้ว ชิดตะขบ, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตจรี, นายสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ และนางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าหลังได้เข้าเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 พบว่าทุกคนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถปรับตัวได้บ้างแล้ว โดยทั้งหมดยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดใดๆ ทุกการกระทำปฏิบัติไปตามหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณให้กับวัดต่างๆ และยืนยันจะต่อสู้คดีต่อไป ทั้งนี้ จากการพูดคุยในเรื่องการต่อสู้คดีวันนี้คงไม่ไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่คัดค้านการประกันตัวที่ศาลาอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยจะเดินทางไปยื่นอุทธรณ์ในวันศุกร์ที่ 10 สคนี้ ที่เป็นวันเดียวกับที่ทั้งหมดจะต้องถูกนำตัวไปยื่นฝากขังในผลัดที่ 2 แต่ก็พบว่ามีบางคน เช่น นายพัฒนาที่อาจไม่พร้อมขอยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากไม่พร้อมเรื่องหลักทรัพย์ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กำหนดไว้ในคดีนี้ที่ 300,000-800,000 บาท ส่วนคนที่พร้อม เช่น นายพนมและนายแก้ว ก็มีความกังวลหากศาลเห็นชอบให้ประกันตัว ก็อาจจะถูกอายัดตัวไปดำเนินคดีในคดีอื่นต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้นายพนมก็เข้าใจดี เพราะโดนตำรวจแจ้งเอาผิดหลายคดี แม้ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่เมื่อมีประเด็นนี้เกิดขึ้น ก็ขอพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งทุจริต พม กรณีที่ ปปชชี้มูลความผิดวินัยข้าราชการร้ายแรง กับนายพนม ตนยังไม่ได้แจ้งข้อมูลให้นายพนมรับทราบ และไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ เพราะตนก็ยังไม่เห็นเอกสารใดๆ จาก ปปช ส่วนตัวก็คงจะขอทำหน้าที่ในส่วนคดีที่รับผิดชอบไปก่อน พลออนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีผลสอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้องกับทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัด พม ได้ลงนามรับรองมติผลการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง พม (อกพกระทรวง พม) ที่เห็นชอบผลการสอบวินัยร้ายแรงผู้บริหารระดับสูง 26 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งมีมติไล่ออกขาดจากบำเหน็จบำนาญทั้งหมด 6 คน โดยในจำนวนนี้ มีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม ที่เสียชีวิตรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีมติปลดออกจากราชการ แต่ยังได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ จำนวน 5 คน และกันไว้เป็นพยาน 15 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือกล่าวโทษแจ้งเป็นรายบุคคล ขณะเดียวกันจะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปท) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง) เพื่อให้รับทราบเช่นเดียวกัน โดยผู้ถูกกล่าวโทษทั้งหมด หลังจากได้รับหนังสือแจ้งแล้ว สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน
ก่อนหน้านี้:ดู บอล สด ไทย กัมพูชา วัน นี้2021ฟรีบาท
ฉีกงกง 2021-02-27
น้ำตาที่แท้จริง : หลังจากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวจีนวิจารณ์เรื่องนี้อย่างมากโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ชาวจีนคนหนึ่งโพสต์ทางเว่ยป๋อว่า ไม่ว่าจะทำห้องพักบนกำแพงเมืองจีนด้วยวิธีการใดก็ตาม แต่การแข่งขันโดยบริษัทเอกชนแห่งนี้จะสร้างความเสียหายต่อโบราณสถานแห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วยบริหาร-จัดการดีแต่ต้น มันจะไม่ถึงขนาดนั้น!
ยูริเซียง ยูริเซียง 2021-02-27 00:01:08
“เอสซีจี”จับมือบุญถาวร ตั้งธุรกิจค้าปลีกแบบใหม่ เน้นออกแบบสินค้าจับกลุ่มตกแต่ง 09 สิงหาคม พศ 2561 เวลา 07:35 น
ความคืบหน้าของชิบะ 2021-02-27 00:01:08
นอกจากนั้นจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นสบุญเชิญ ได้ร่วมกับพวก ตระเวนก่อเหตุฉ้อโกงในลักษณะดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีหมายจับติดตัวในคดีฉ้อโกงมากถึง 8 หมายจับ ทั้งใน จตรัง สงขลา นครศรีธรรมราช กระบี่ ชุมพร และ นครราชสีมา ซึ่งเหตุเกิดในช่วงปี 50-58 และมีผู้ร่วมขบวนการบางคนถูกตำรวจกองปราบจับกุมไปแล้ว ส่วน นสบุญเชิญ ถูกจับกุมเป็นครั้งแรก, ความจริง เปิดโทรทัศน์แช่ไว้ทุกเย็น ถึงตาไม่ได้ดู แต่หูเงี่ยฟังตลอด สนใจตอนไหน หูก็ดึงตามาจ้องซะที。 สรุปเอาเป็นว่าในขณะที่นับวัน โซเชียลมีเดีย มันชักจะแปรสภาพเป็น ประชาธิปไตยทางตรง เข้าไปทุกที การนำเอาประชาธิปไตยในแนวนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ผู้อื่น หรือต่อสังคมประเทศชาติ คงหนีไม่พ้นที่ต้องอาศัย นักรบแห่งธรรมะ ที่ประกอบไปด้วยคุณธรรม มโนธรรม ขันติธรรม หรืออะไรที่ออกไปทางธรรมๆ ทั้งหลาย ไปจนถึงสิ่งที่เรียกว่าวุฒิภาวะ นั่นแหละเป็นหลัก มันถึงจะช่วยให้ประชาธิปไตยในแนวนี้ เกิดศักยภาพ ประสิทธิภาพ และพลานุภาพ พอที่จะช่วยถ่วง ช่วยรั้ง ประชาธิปไตยในแนวอื่นๆ ได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นครึ่งใบ เสี้ยวใบ เต็มใบ เป็นไฮบริด ไฮไม่บริด ใดๆ ก็ตามที。
Tang Shao Bi Lu Mei 2021-02-27 00:01:08
,ทั้งๆที่เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ตรวจสอบ ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน แต่คนเหล่านี้กลับไม่อ้างถึง และอาศัยจังหวะสร้างกระแสบิดเบือน ผมเชื่อว่าทางอังกฤษเอง คงสมเพชนักการเมืองประเภทนี้ เพราะถ้าเป็นคดีการเมืองจริง เขาให้สถานะผู้ลี้ภัยการเมืองไปนานแล้ว แต่นี่เขาไม่ให้。อดีตผู้พิพากษาให้ทัศนะกรณีสื่อพาดหัวข่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องหมอนิ่ม 08 สิงหาคม พศ 2561 เวลา 21:25 น 。
ความวุ่นวาย ซากิ ดุร้าย จีน 2021-02-27 00:01:08
ยาแรงคอร์รัปชันประกาศในราชกิจจาฯ แล้ว โครงการประมูลงานมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้าน ผู้ประกอบการต้องแนบเอกสารนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตด้วย เข้มระบบตรวจสอบภายในให้กำหนดบทลงโทษคนโกง ส่วนโครงการตั้งแต่ 1 พันล้านบาทให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม พร้อมให้มีผู้สังเกตการณ์ตรวจสอบอีกชั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศต่อต้านการคอร์รัปชัน จากคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต รวม 2 ฉบับ ฉบับแรก เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของนโยบายและแนวทางป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่ผู้ประกอบการต้องจัดให้มี ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พศ2560 สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ กำหนดให้ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการที่มีวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องจัดให้มีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสม และระบุเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ประกาศฉบับนี้กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องมีการกำหนดนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง อาทิ มีการกำหนดนโยบาย วิธีการหรือมาตรการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง มีการกำหนดหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องครอบคลุม นอกจากนี้ ยังระบุให้กรรมการผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ โดยจะต้องห้ามมิให้ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนบุคคลที่สาม ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการมีการติดสินบน ประกอบด้วย ไม่ให้ เสนอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือจูงใจให้ร่วมดำเนินการใดๆ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม อันเป็นการให้ประโยชน์ในการเสนอราคา หรือการสมยอมกันในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ อันนำมาซึ่งความได้เปรียบและได้รับผลประโยชน์ตอบแทนบางประการในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการปฏิบัติงานตามสัญญา ทั้งก่อนระหว่างการเสนอราคา และหลังการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง หรือเพื่อรักษาผลประโยชน์อื่นใดอันไม่เหมาะสมตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ กำหนดผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีการสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น จัดให้มีการสื่อสารประกาศหรือเผยแพร่นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้กับคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้รับทราบต้องกำหนดบทลงโทษคนโกง จัดให้มีการอบรมหรือส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานได้รับการอบรมเกี่ยวกับนโยบาย วิธีการหรือมาตรการป้องกันการทุจริตที่บริษัทหรือหน่วยงานอื่นจัดขึ้น จัดให้มีการเผยแพร่นโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างให้กับบุคคลภายนอกทราบผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายสารสนเทศของหน่วยงาน เอกสารแผ่นพับ นอกจากนี้ ต้องกำหนดบทลงโทษหรือข้อบังคับสำหรับผู้กระทำการทุจริต จัดให้มีช่องทางหรือระบบการแจ้งเบาะแส ของข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริต หรือพบการกระทำที่ส่อทุจริต กำหนดหน่วยงานภายในที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการป้องกันการทุจริตที่ชัดเจน ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ต้องแนบเอกสารที่เป็นนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเสนอราคา และกำหนดให้หน่วยงานของรัฐกำหนดเงื่อนไขในขอบเขตของงาน และประกาศจัดซื้อจัดจ้างว่าคุณสมบัติผู้เข้าร่วมการเสนอราคาจะต้องมีนโยบายและแนวทางการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งต้องแนบเอกสารหลักฐาน และแบบตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมการเสนอราคาในโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบเป็นเอกสารการเสนอราคา โดยผู้ประกอบการจะต้องมีการดำเนินการตามแบบตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนทุกข้อจึงจะผ่านการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา สำหรับประกาศฉบับที่ 2 เรื่อง แนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กำหนดให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (คปท) ออกประกาศกำหนดแนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แบบของข้อตกลงคุณธรรม การคัดเลือกผู้สังเกตการณ์และการจัดทำรายงานข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้ ข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact: IP) หมายความว่า ข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ เจ้าของโครงการและผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอ โดยฝ่ายหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการและฝ่ายผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอได้ตกลงกันว่าจะไม่กระทำการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง และให้มีผู้สังเกตการณ์ ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่จำเป็นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างและร่างเอกสารเชิญชวนจนถึงขั้นตอนสิ้นสุดโครงการ โดยผู้สังเกตการณ์ต้องมีความเป็นกลาง และไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น และให้รายงานความเห็นพร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ คปท การจัดทำข้อตกลงคุณธรรม ต้องเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่สาธารณชนสนใจ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการที่มีความเสี่ยงในการทุจริต เป็นต้น เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้แจ้งข้อมูลโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้คณะกรรมการ คปท ภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณเพื่อพิจารณาคัดเลือกให้จัดทำข้อตกลงคุณธรรม ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้จัดทำตามแบบและวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมตประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช) มีมติชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการ พศ กับพวกทุจริตเงินทอนวัดใน จลำปาง แพร่ และลำพูน ว่า ปปชต้องดำเนินการตามหน้าที่ เพราะข้อกล่าวหาและคดีต่างๆ อยู่ในการตรวจสอบของแต่ละหน่วยงานอยู่แล้วเชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนกำกับดูแล พศ จะมีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก โดยได้มีมาตรการกำหนดรายชื่อวัดมาล่วงหน้าในการของบประมาณ และให้ พศ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ) คณะสงฆ์ทั่วประเทศ ให้ทำงานกันใกล้ชิดมากขึ้น ยึดหลักสุจริต โปร่งใส ซึ่งตนกำชับมาตลอด เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น และถ้าดูผู้กระทำความผิดก็เป็นคนกลุ่มเดิมๆ แต่คนส่วนใหญ่ของ พศทำงานตามแนวทางที่มีธรรมาภิบาล ถ้าพบอีกก็ต้องดำเนินการตามระเบียบราชการ ด้านนายณพล ใบเงิน ทนายความข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัด เปิดเผยภายหลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการเข้าเยี่ยมนายพนม รวมทั้งข้าราชการระดับสูงที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด เช่น นายชยพล พงษ์สีดา, นายแก้ว ชิดตะขบ, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตจรี, นายสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ และนางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าหลังได้เข้าเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 พบว่าทุกคนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถปรับตัวได้บ้างแล้ว โดยทั้งหมดยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดใดๆ ทุกการกระทำปฏิบัติไปตามหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณให้กับวัดต่างๆ และยืนยันจะต่อสู้คดีต่อไป ทั้งนี้ จากการพูดคุยในเรื่องการต่อสู้คดีวันนี้คงไม่ไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่คัดค้านการประกันตัวที่ศาลาอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยจะเดินทางไปยื่นอุทธรณ์ในวันศุกร์ที่ 10 สคนี้ ที่เป็นวันเดียวกับที่ทั้งหมดจะต้องถูกนำตัวไปยื่นฝากขังในผลัดที่ 2 แต่ก็พบว่ามีบางคน เช่น นายพัฒนาที่อาจไม่พร้อมขอยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากไม่พร้อมเรื่องหลักทรัพย์ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กำหนดไว้ในคดีนี้ที่ 300,000-800,000 บาท ส่วนคนที่พร้อม เช่น นายพนมและนายแก้ว ก็มีความกังวลหากศาลเห็นชอบให้ประกันตัว ก็อาจจะถูกอายัดตัวไปดำเนินคดีในคดีอื่นต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้นายพนมก็เข้าใจดี เพราะโดนตำรวจแจ้งเอาผิดหลายคดี แม้ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่เมื่อมีประเด็นนี้เกิดขึ้น ก็ขอพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งทุจริต พม กรณีที่ ปปชชี้มูลความผิดวินัยข้าราชการร้ายแรง กับนายพนม ตนยังไม่ได้แจ้งข้อมูลให้นายพนมรับทราบ และไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ เพราะตนก็ยังไม่เห็นเอกสารใดๆ จาก ปปช ส่วนตัวก็คงจะขอทำหน้าที่ในส่วนคดีที่รับผิดชอบไปก่อน พลออนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีผลสอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้องกับทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัด พม ได้ลงนามรับรองมติผลการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง พม (อกพกระทรวง พม) ที่เห็นชอบผลการสอบวินัยร้ายแรงผู้บริหารระดับสูง 26 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งมีมติไล่ออกขาดจากบำเหน็จบำนาญทั้งหมด 6 คน โดยในจำนวนนี้ มีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม ที่เสียชีวิตรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีมติปลดออกจากราชการ แต่ยังได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ จำนวน 5 คน และกันไว้เป็นพยาน 15 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือกล่าวโทษแจ้งเป็นรายบุคคล ขณะเดียวกันจะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปท) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง) เพื่อให้รับทราบเช่นเดียวกัน โดยผู้ถูกกล่าวโทษทั้งหมด หลังจากได้รับหนังสือแจ้งแล้ว สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน,ละหมาดฮายัตต้านความรุนแรง หลังกลุ่มก่อความไม่สงบยิงอสสุไหงปาดีเสียชีวิต2นาย 08 สิงหาคม พศ 2561 เวลา 18:29 น 。ทั้งๆที่เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ตรวจสอบ ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน แต่คนเหล่านี้กลับไม่อ้างถึง และอาศัยจังหวะสร้างกระแสบิดเบือน ผมเชื่อว่าทางอังกฤษเอง คงสมเพชนักการเมืองประเภทนี้ เพราะถ้าเป็นคดีการเมืองจริง เขาให้สถานะผู้ลี้ภัยการเมืองไปนานแล้ว แต่นี่เขาไม่ให้。
หลิวซีอาน 2021-02-27 00:01:08
แต่ก็แน่ล่ะว่าในแนวรบด้านนี้ คงต้องประกอบไปด้วยความหลากหลาย หลากสไตล์ และหลากมุมมองด้วยกัน บางมุมมอง บางสไตล์ ที่กระเดียดไปทาง ฝ่ายตรงข้าม กับรายอย่าง พี่ดี้, เสธไพศาล หรือ อาจารย์สมเกียรติ ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงละเลย คงต้องติดตามและรับฟังกันไปตามสภาพ โดยเฉพาะถ้าหากมันไม่ถึงกับเป็นอะไรที่ สุดโต่ง จนเกินไป การนำเอาความหลากหลายเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ก็ไม่น่าจะถึงกับเสียหายอะไรมาก ชนิดต้องไปไล่บด ไล่บี้ รุมกระทืบในแต่ละครั้ง หรือทุกๆ ครั้ง ที่แนวคิด มุมมอง ของกลุ่มคนเหล่านี้ เกิดเป็นอะไรที่ ตรงกันข้าม กับสิ่งซึ่งเราอยากเห็น อยากฟัง แต่เพียงเท่านั้น,กฟผยืนยันลาวเบรกสร้างเขื่อนไม่กระทบการใช้ไฟฟ้าของไทย 09 สิงหาคม พศ 2561 เวลา 07:27 น 。 ความจริง เปิดโทรทัศน์แช่ไว้ทุกเย็น ถึงตาไม่ได้ดู แต่หูเงี่ยฟังตลอด สนใจตอนไหน หูก็ดึงตามาจ้องซะที。